ในปี 2566 กลุ่มบริษัทบางจากเดินหน้าตามยุทธศาสตร์สร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโดยเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) (บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เดิม) ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 26,000 ล้านบาท และได้รับสินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์ด้านพลังงานที่สำคัญ คือ โรงกลั่นน้ำมัน เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ ซึ่งมีมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท โดยเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 และได้ยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือ ปัจจุบันถือหุ้นร้อยละ 76.34 ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด

ภาพการเติบโตขยายธุรกิจในปี 2566 ยังสะท้อนได้จากรายได้จากการขายและการให้บริการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 385,853 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปี 2565 มี EBITDA รวมสูงถึง 41,680 ล้านบาท และส่งมอบกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 13,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากปี 2565 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด สร้างสถิติใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 9.27 บาท ทุกกลุ่มธุรกิจมีพัฒนาการและความสำเร็จสำคัญดังรายละเอียด

กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน

โรงกลั่นน้ำมันที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศ มาถึงวันนี้มีกำลังการผลิตติดตั้งในระดับแนวหน้าของประเทศที่ 294,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ ในปี 2566 มีอัตราการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 155,000 บาร์เรลต่อวัน หลังเข้าดำเนินกิจการร่วมกับโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา ซึ่งทั้งโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา มีแผนจะดำเนินการการผลิตอย่างเต็มศักยภาพต่อไป

บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างครบวงจรใน Value Chain ด้วยธุรกิจจัดหาน้ำมันดิบ การบริหารการขนส่งเชื้อเพลิงทางรถและเรือผ่านทางท่อและโลจิสติกส์ และได้ลงนามสัญญาก่อสร้างหน่วยผลิตน้ำมันอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) อีกทั้งโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง เป็นโรงกลั่นน้ำมันแห่งเดียวในโลกที่ได้รับรางวัล Global Performance Excellence Award ด้านการบริหารจัดการระดับสากล นอกจากนี้ ได้สร้างแพลตฟอร์มเพื่อบริหารธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง ให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด ด้วยการจัดตั้งบริษัท รีไฟเนอร์รี่ ออฟติไมซ์เซชั่น แอนด์ ซินเนอร์ยี่ เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (ROSE) ร่วมกับบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) (BSRC) ซึ่งได้เข้ามาเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทบางจาก โดยกลุ่มบริษัทบางจากสามารถบริหารจัดการในช่วงเปลี่ยนผ่านโครงสร้างผู้ถือหุ้น และการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติได้อย่างราบรื่น มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ตลอดจนสามารถยกระดับศักยภาพการดำเนินงานด้านธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน เพื่อรองรับการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา ในอนาคต

กลุ่มธุรกิจการตลาด

มีเครือข่ายสถานีบริการเป็น 2,219 แห่งทั่วประเทศ ณ สิ้นปี 2566 ผู้บริโภคเข้าถึงน้ำมันบางจากได้มากขึ้น มียอดจำหน่ายน้ำมันรวมทุกช่องทางสร้างสถิติใหม่ที่ 6,490 ล้านลิตร เติบโตถึงร้อยละ 9 โดยในสถานีบริการได้มีการปรับเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ที่สถานีบริการเป็น “ใบไม้ใบใหม่” และเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ “เอสโซ่” เป็น “บางจาก” พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์น้ำมันและประสบการณ์ผ่านแนวคิด “Your Greenovative Destination for Intergeneration” ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil ขยายต่อเนื่อง มีร้านอินทนิลมีสาขารวมมากกว่า 1,000 สาขา มีสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 265 แห่ง เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม

กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด

บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา 4 โรง ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ และธุรกิจคลังน้ำมัน ท่าเรือขนส่งน้ำมันในจังหวัดเพชรบุรี

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ

บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ได้ต่อยอดธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง โดยจัดตั้งบริษัท บีบีจีไอ เฟิร์มบ็อกซ์ ไบโอ จำกัด ร่วมกับบริษัท Fermbox Bio จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพด้วยเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง

ธุรกิจต้นน้ำหรือกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่

OKEA ASA เข้าลงทุนในแหล่งปิโตรเลียม Statfjord ในทะเลนอร์เวย์ (ร้อยละ 28) โดยโอนสิทธิ์แล้วเสร็จในปลายปี 2566 ซึ่งส่งผลให้ OKEA ASA มีปริมาณการผลิตน้ำมันปิโตรเลียมสุทธิเทียบเท่าน้ำมันดิบอยู่ที่ 24,590 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 46.9 ซึ่งในปี 2566 OKEA ASA มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน EBITDA ของกลุ่มบริษัทบางจากในสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 47.2 ประมาณ 19,671 ล้านบาท เพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

นอกจากนี้ ขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ด้วยการเปิดสถานีบริการก๊าซธรรมชาติเหลวแห่งแรกในประเทศ เพื่อผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในภาคขนส่ง ธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มสับเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าวินโนหนี้เดินหน้าการเป็นผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์ม Battery as a Service (BaaS) สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ขยายเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ครอบคลุม 120 แห่ง ทั้งนี้ บริษัท วินโนหนี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทบางจากได้จัดตั้งบริษัท สมาร์ทอีวีไบค์ จำกัด ร่วมกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินการธุรกิจให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในบริเวณใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส

บนเส้นทางแห่งการเติบโตนี้ กลุ่มบริษัทบางจากยังสามารถรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและวินัยทางการเงิน โดยภายหลังการเข้าทำธุรกรรมของบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้คงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “A” สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นในสถานะทางธุรกิจของนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลบางจากเต็มวงเงิน 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทบางจากให้ความสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยรักษาสมดุลในการดำเนินธุรกิจ รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และมีการกำกับดูแลธุรกิจที่ดีเสมอมา ในปี 2566 เราได้รับการยกย่องถึงความเป็นเลิศด้านความยั่งยืนติดอันดับ Top 2 ของโลกด้านความยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil & Gas Refinery and Marketing จาก S&P Global Corporate Sustainability Assessment ขณะเดียวกัน เรายังคงเดินหน้าดำเนินงานตามแผนงานขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593

ผมขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สังคมและชุมชน ฯลฯ ที่มอบความไว้วางใจ และให้การสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทบางจากด้วยดีเสมอมา และในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 40 ในปี 2567 เราพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว” เพื่อให้กลุ่มบริษัทบางจากเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้เสีย เป็นองค์กร 100 ปีที่เป็นหนึ่งในเสาหลักด้านพลังงานให้กับประเทศต่อไป

กลุ่มบริษัทบางจากให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลระหว่างมูลค่าและคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสียครอบคลุม ESG มุ่งมั่นในการร่วมแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศด้วยการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยแผน BCP316NET เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน "Carbon Neutrality" ในปี 2573 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ "Net Zero" ในปี 2593 ขององค์กร บริษัทฯ พัฒนาแนวทางดำเนินงานให้ตอบสนองกับเป้าหมายมีคณะทำงานเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินงาน ทั้งด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและทรัพยากร รวมถึงการพิจารณาแผนการลงทุนในธุรกิจคาร์บอนต่ำและนวัตกรรมสีเขียว

"การพัฒนากระบวนการทำงาน เพิ่มผลผลิต ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน รวมถึงมีพัฒนาการทั้งด้านบุคลากรการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม โดยให้ความสำคัญด้านความปลอดภัย และการพัฒนาธุรกิจให้ยั่งยืนพร้อมการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม" เป็นกลไกในการพัฒนาและที่มาของความสำเร็จ ในปี 2565 โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง เป็นองค์กรแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัล Thailand Quality Award (TQA) ซึ่งเป็นรางวัลสุดยอดองค์กรคุณภาพ และในปี 2566 เป็นโรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่ได้รับรางวัล Global Performance Excellence Award ระดับ World Class ของ Asia Pacific Quality Organization (APQ0) ด้านการบริหารจัดการระดับสากล

นอกจากนี้ ในปี 2566 กลุ่มบริษัทบางจากบุกเบิกธุรกิจผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF (Sustainable Aviation Fuel) ผ่านการจัดตั้งบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มสายการบินที่ให้ความสำคัญของการลดก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางและขนส่งทางอากาศ ร่วมกับพันธมิตรบริษัท ธนโชค ออยล์ ไลท์ จำกัด ในโครงการผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAF จากน้ำมันประกอบอาหารที่ใช้แล้วเป็นรายแรกในประเทศไทย ที่กำลังการผลิต 1 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 80,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้เตรียมแผนการจัดหาวัตถุดิบโดยเริ่มดำเนิน โครงการ "ทอดไม่ทิ้ง" เพื่อรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจาก และร่วมกับพันธมิตรธุรกิจอาหารรายใหญ่ อาทิ ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารแบรนด์ "ไก่ 5 ดาว" และ S&P เพื่อบริหารจัดการนำน้ำมันประกอบอาหารที่ใช้แล้วมาผลิตน้ำมัน SAFเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของผู้บริโภค

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขยายกรอบการดำเนินการการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศผ่านทางบริษัท ออมสุขวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด สนับสนุนกลุ่มชาวนารักโลกด้วยการรับซื้อ "ข้าวลดโลกร้อน" จากวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่ ต.เดิมบาง อ. เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ การทำนาที่ไมให้น้ำขังด้วยวิธี "ทำนาเปียกสลับแห้ง" ภายใต้โครงการไทยไรซ์ นามา (Thai Rice NAMA) เพื่อนำมาเป็นสินค้าสมนาคุณแก่ลูกค้าสถานีบริการบางจาก รวมถึงสนับสนุนเครือข่ายธุรกิจสถานีบริการน้ำมันชุมชน ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคาเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายพร้อมสนับสนุนให้นำคาร์บอนเครดิตที่ได้ จากการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ขึ้นทะเบียน T-VER ในโครงการ "เครือข่ายสหกรณ์ลดโลกร้อน" ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลในการดำเนินธุรกิจโดยมีพื้นฐานจากการรักษาสมดุลระหว่างคุณค่าและมูลค่าสู่การรักษาสมดุลของความท้าทายด้านพลังงาน 3 ประการ (Energy Trilemma) ได้แก่ ความมั่นคงด้านพลังงาน (Energy Security) การเข้าถึงพลังงาน (Energy Affordability) และความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวคล้อม (Environmental Sustainability) บริษัทฯได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นการลงทุนที่ดีต่อประเทศที่จะได้สินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน เป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศมากขึ้น ดีต่อผู้บริโภคสามารถเข้าถึงพลังงานในราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้นและสะดวกมากขึ้นและสุดท้ายดีต่อธุรกิจในแง่การเพิ่มกำลังการกลั่นสูง และพัฒนา ประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ รวมทั้งได้ขยายผลการดำเนินการด้านความยั่งยืนไปสู่คู่ค้าตลอดห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการเข้าร่วมการประเมินด้านความยั่งยืนกับหน่วยงานสากล เพื่อให้การขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียได้อย่างครบถ้วน

ในนามของกลุ่มบริษัทบางจาก ผมขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกท่านที่ได้ให้ความไว้วางใจ ความเชื่อมั่น และสนับสนุนกลุ่มบริษัทบางจากเสมอมา และในโอกาสก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 เราจะยังคงมุ่งมั่นสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ "รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว" สร้างประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้เสีย เป็นองค์กร 100 ปี ที่เป็นหนึ่งในเสาหลักด้านพลังงานให้กับประเทศ เพื่อสร้างความสมดุลทั้งด้านความมั่นคงทางพลังงาน ด้านการเข้าถึงพลังงาน และด้านความยั่งยืนให้กับสังคมไทยและอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อๆไป เพื่อ “ส่งต่อ...ความสุขไม่สิ้นสุด Regenerative Happiness” ครับ